ย้อนกลับ
ชี้แจงข่าว ชาวโผงเผงโวยเขื่อนป้องกันน้ำท่วมงบกว่าร้อยล้านใช้งานได้แค่สามบาทห้าสิบ หลังสร้างเสร็จทรุดเป็นโพรงจนทำน้ำทะลักท่วมผ่านไปหนึ่งปียังไม่มีการแก้ไข
เรียน พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนทุกท่าน
เรื่อง ชี้แจงข่าว ชาวโผงเผงโวยเขื่อนป้องกันน้ำท่วมงบกว่าร้อยล้านใช้งานได้แค่สามบาทห้าสิบ หลังสร้างเสร็จทรุดเป็นโพรงจนทำน้ำทะลักท่วมผ่านไปหนึ่งปียังไม่มีการแก้ไข
ตามที่ เพจเฟซบุ๊ก แจ้งข่าวสารอ่างทอง เสนอข่าวว่า “ชาวโผงเผงโวยเขื่อนป้องกันน้ำท่วมงบกว่าร้อยล้านใช้งานได้แค่สามบาทห้าสิบ หลังสร้างเสร็จทรุดเป็นโพรงจนทำน้ำทะลักท่วม ผ่านไปหนึ่งปียังไม่มีการแก้ไขหวั่นซ้ำรอยเขื่อนเรียงหินป้องกันน้ำท่วมริมคลองโผงเผง หมู่ที่ 6 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเกิดทรุดตัวเป็นโพรงหลายจุดตั้งแต่น้ำท่วมปีที่ผ่านมา และเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำไหลลอดเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ จนมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่มีการแก้ไข แม้เวลาจะผ่านไปกว่าหนึ่งปีแล้ว ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าววิตกกังวล เกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยอีก เนื่องจากตอนนี้ระดับน้ำในคลองโผงเผงหรือคลองบางหลวงโดด ซึ่งเป็นคลองสาขาแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ” ตามลิงค์ที่แนบมานี้
https://bit.ly/3QQmMbm
กรมโยธาธิการและผังเมือง ขอชี้แจงรายละเอียด ดังนี้
กรมฯ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า การร้องเรียนในเพจดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนโผงเผง ระยะที่ 3 อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง คันป้องกันน้ำท่วม ความยาว 1,310 เมตร มีระดับป้องกัน +8.20 ม.รทก. ปีงบประมาณดำเนินการ 2562 - 2564 ก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2564 สาเหตุที่โครงการเกิดปัญหาดังกล่าว เนื่องจากช่วงเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน 2564 ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โดยโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนโผงเผง ระยะที่ 3 มีระดับคันป้องกันน้ำท่วมริมคลองโผงเผงที่ระดับ +8.20 ม.รทก. สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ (ระดับน้ำท่วมช่วงเดือนกันยายน 2564 ประมาณ +7.50 ม.รทก.) และโครงการฯ ได้รับการประสานจากกรมชลประทานให้เว้นงานก่อสร้างคันป้องกันน้ำท่วมพื้นที่บริเวณริมคลองโผงเผงไว้ให้กับโครงการ ของกรมชลประทาน ที่จะทำการก่อสร้างประตูน้ำคลองโผงเผง เป็นความยาว 543 เมตร ทำให้คันป้องกันน้ำท่วมไม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้โครงการไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้สมบูรณ์จนกว่าการก่อสร้างประตูน้ำคลองโผงเผง ของกรมชลประทานจะแล้วเสร็จ ดังนั้นเมื่อน้ำท่วมไหลเข้ามาท่วมพื้นที่ชุมชนด้านหลังคันป้องกันน้ำท่วม ส่งผลให้ดินถมหลังคันป้องกันน้ำท่วม ทางเท้าและหินเรียงหน้าเขื่อนทรุดเสียหายเป็นบางช่วง ซึ่งเมื่อระดับน้ำในคลองโผงเผงลดระดับจนเข้าสู่สภาวะปกติ กรมโยธาธิการและผังเมืองได้แจ้งบริษัทผู้ให้บริการควบคุมงาน และผู้รับจ้าง เข้าสำรวจตรวจสอบความเสียหาย และผู้รับจ้างได้เข้าดำเนินการแก้ไขในส่วนของงานที่เสียหาย จากเหตุน้ำท่วม จนแล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2565 แล้ว ส่วนโพรงจากหินหน้าเขื่อนทรุดตัวที่พบเป็นส่วนที่ป้องกันการกัดเซาะโครงสร้างคันป้องกันน้ำท่วม โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้แจ้งให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการแก้ไข โดยผู้รับจ้างจะเริ่มเข้าดำเนินการแก้ไขภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 โดยใช้วิธีการลำเลียงวัสดุหินใหญ่ด้วยแรงงานคนไปเรียงในบริเวณที่เป็นโพรงเพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีพื้นที่ให้เครื่องจักรเข้าทำงานได้ ซึ่งโครงการยังอยู่ในระยะเวลาค้ำประกันสัญญา 2 ปี
ส่วนกรณีบ้านของนางนิตยา ยาใจ มีห้องน้ำที่ต่อเติมออกมาเกิดการทรุดตัวจนแยกออกจากตัวบ้านอย่างชัดเจน ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง (การตอกเสาเข็ม) จากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้รับจ้างได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าของบ้านขอรับเงินค่าชดเชยความเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2564 เป็นจำนวนเงิน 25,000 บาท และแจ้งว่าจะดำเนินการซ่อมแซมด้วยตนเอง โดย นายธวัชชัย ทองงามดี (สามีของนางนิตยา) เป็นผู้ลงนามในเอกสารบันทึกหลังจากทำการก่อสร้าง เพื่อเป็นหลักฐานและจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ เพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนที่ร้องเรียน เห็นควรดำเนินการ ดังนี้ ให้กรมชลประทานเร่งรัดการก่อสร้างประตูน้ำคลองโผงเผงเพื่อเชื่อมต่อคันป้องกันน้ำท่วมที่เว้นว่างไว้ ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด และในระหว่างที่โครงการยังไม่แล้วเสร็จกรมชลประทาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องดำเนินการมาตรการป้องกันน้ำท่วมแบบชั่วคราว เช่น สร้างแนวคันดินถมหรือกระสอบทราย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนอีก
กรมโยธาธิการและผังเมืองขอขอบคุณสำนักข่าวและสื่อมวลชนที่ได้เสนอข่าวดังกล่าว ทำให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนได้ทราบทันสถานการณ์ตามนโยบายของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ที่มอบไว้มา ณ โอกาสนี้
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
นายพรพจน์ เพ็ญพาส
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
ตามที่ เพจเฟซบุ๊ก แจ้งข่าวสารอ่างทอง เสนอข่าวว่า “ชาวโผงเผงโวยเขื่อนป้องกันน้ำท่วมงบกว่าร้อยล้านใช้งานได้แค่สามบาทห้าสิบ หลังสร้างเสร็จทรุดเป็นโพรงจนทำน้ำทะลักท่วม ผ่านไปหนึ่งปียังไม่มีการแก้ไขหวั่นซ้ำรอยเขื่อนเรียงหินป้องกันน้ำท่วมริมคลองโผงเผง หมู่ที่ 6 ตำบลโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งเกิดทรุดตัวเป็นโพรงหลายจุดตั้งแต่น้ำท่วมปีที่ผ่านมา และเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำไหลลอดเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่ จนมีชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงถูกปล่อยทิ้งไว้ไม่มีการแก้ไข แม้เวลาจะผ่านไปกว่าหนึ่งปีแล้ว ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าววิตกกังวล เกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยอีก เนื่องจากตอนนี้ระดับน้ำในคลองโผงเผงหรือคลองบางหลวงโดด ซึ่งเป็นคลองสาขาแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ำ” ตามลิงค์ที่แนบมานี้
https://bit.ly/3QQmMbm
กรมโยธาธิการและผังเมือง ขอชี้แจงรายละเอียด ดังนี้
กรมฯ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่า การร้องเรียนในเพจดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนโผงเผง ระยะที่ 3 อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง คันป้องกันน้ำท่วม ความยาว 1,310 เมตร มีระดับป้องกัน +8.20 ม.รทก. ปีงบประมาณดำเนินการ 2562 - 2564 ก่อสร้างแล้วเสร็จเดือนกันยายน 2564 สาเหตุที่โครงการเกิดปัญหาดังกล่าว เนื่องจากช่วงเดือนกันยายน ถึงพฤศจิกายน 2564 ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โดยโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนโผงเผง ระยะที่ 3 มีระดับคันป้องกันน้ำท่วมริมคลองโผงเผงที่ระดับ +8.20 ม.รทก. สามารถป้องกันน้ำท่วมได้ (ระดับน้ำท่วมช่วงเดือนกันยายน 2564 ประมาณ +7.50 ม.รทก.) และโครงการฯ ได้รับการประสานจากกรมชลประทานให้เว้นงานก่อสร้างคันป้องกันน้ำท่วมพื้นที่บริเวณริมคลองโผงเผงไว้ให้กับโครงการ ของกรมชลประทาน ที่จะทำการก่อสร้างประตูน้ำคลองโผงเผง เป็นความยาว 543 เมตร ทำให้คันป้องกันน้ำท่วมไม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้โครงการไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้สมบูรณ์จนกว่าการก่อสร้างประตูน้ำคลองโผงเผง ของกรมชลประทานจะแล้วเสร็จ ดังนั้นเมื่อน้ำท่วมไหลเข้ามาท่วมพื้นที่ชุมชนด้านหลังคันป้องกันน้ำท่วม ส่งผลให้ดินถมหลังคันป้องกันน้ำท่วม ทางเท้าและหินเรียงหน้าเขื่อนทรุดเสียหายเป็นบางช่วง ซึ่งเมื่อระดับน้ำในคลองโผงเผงลดระดับจนเข้าสู่สภาวะปกติ กรมโยธาธิการและผังเมืองได้แจ้งบริษัทผู้ให้บริการควบคุมงาน และผู้รับจ้าง เข้าสำรวจตรวจสอบความเสียหาย และผู้รับจ้างได้เข้าดำเนินการแก้ไขในส่วนของงานที่เสียหาย จากเหตุน้ำท่วม จนแล้วเสร็จเมื่อเดือนมีนาคม 2565 แล้ว ส่วนโพรงจากหินหน้าเขื่อนทรุดตัวที่พบเป็นส่วนที่ป้องกันการกัดเซาะโครงสร้างคันป้องกันน้ำท่วม โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้แจ้งให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการแก้ไข โดยผู้รับจ้างจะเริ่มเข้าดำเนินการแก้ไขภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2565 โดยใช้วิธีการลำเลียงวัสดุหินใหญ่ด้วยแรงงานคนไปเรียงในบริเวณที่เป็นโพรงเพิ่มเติม เนื่องจากไม่มีพื้นที่ให้เครื่องจักรเข้าทำงานได้ ซึ่งโครงการยังอยู่ในระยะเวลาค้ำประกันสัญญา 2 ปี
ส่วนกรณีบ้านของนางนิตยา ยาใจ มีห้องน้ำที่ต่อเติมออกมาเกิดการทรุดตัวจนแยกออกจากตัวบ้านอย่างชัดเจน ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง (การตอกเสาเข็ม) จากเหตุการณ์ดังกล่าวผู้รับจ้างได้พูดคุยกับเจ้าของบ้านเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าของบ้านขอรับเงินค่าชดเชยความเสียหาย ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2564 เป็นจำนวนเงิน 25,000 บาท และแจ้งว่าจะดำเนินการซ่อมแซมด้วยตนเอง โดย นายธวัชชัย ทองงามดี (สามีของนางนิตยา) เป็นผู้ลงนามในเอกสารบันทึกหลังจากทำการก่อสร้าง เพื่อเป็นหลักฐานและจะไม่เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ เพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนที่ร้องเรียน เห็นควรดำเนินการ ดังนี้ ให้กรมชลประทานเร่งรัดการก่อสร้างประตูน้ำคลองโผงเผงเพื่อเชื่อมต่อคันป้องกันน้ำท่วมที่เว้นว่างไว้ ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด และในระหว่างที่โครงการยังไม่แล้วเสร็จกรมชลประทาน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องดำเนินการมาตรการป้องกันน้ำท่วมแบบชั่วคราว เช่น สร้างแนวคันดินถมหรือกระสอบทราย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนอีก
กรมโยธาธิการและผังเมืองขอขอบคุณสำนักข่าวและสื่อมวลชนที่ได้เสนอข่าวดังกล่าว ทำให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้มีโอกาสชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนได้ทราบทันสถานการณ์ตามนโยบายของผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย ที่มอบไว้มา ณ โอกาสนี้
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
นายพรพจน์ เพ็ญพาส
อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง
แจ้งไฟล์เสีย 
